บทที่ 26 รางวัลของผู้ชนะ (๓)

เการั่วซีคิดไม่ตกว่าควรทำเช่นใด ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้นางขอหยั่งเชิงอู๋ฮองเฮาดูหน่อยเถิด สตรีหน้าหนาที่กล้ามาแย่งตำแหน่งฮองเฮาไปจะมีน้ำยาอย่างใด!

ในเช้าวันต่อมา หวังซานเย่แต่งกายอย่างสง่างามรอรับพระราชโองการอย่างใจจดใจจ่อ เขาเฝ้ารอวันเวลาที่จะโค่นล้มสกุลเกามาเนิ่นนานนัก เนื่องจากนี่เป็นพระราชโองการฮ่องเต้เขาจึงอยากเดินทางเข้าวังรับพระราชโองการนี้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เกาอี้เหรินและเสนาบดีกรมพระคลังเฉินซู่กวงเดินทางเข้ามาพร้อมกัน แม้จะแปลกใจอยู่มากที่พบเฉินซู่กวงในเวลานี้ แต่หวังซานเย่กลับมิได้ให้ความสนใจต่อเสนาบดีกรมพระคลังสักเท่าใด เนื่องจากเมื่อวันก่อนเขาได้พบบุตรสาวอย่างเฉินรั่วหลานแล้ว รู้สึกไม่ประทับใจต่อพฤติกรรมของนางนัก

ชินอ๋องหวังซานเย่นั่งประทับลำดับถัดมาจากหวังลู่ฮ่องเต้ ขณะเดียวกันสายพระเนตรกลับทอดมองไปยังเกาอี้เหรินด้วยความเย้ยหยันอยู่ในที เขาอยากให้เกาอี้เหรินรู้นักว่านรกของจริงที่สกุลเกาได้ก่อเอาไว้กำลังจะตอบสนองนางในไม่ช้านี้แล้ว

“ฝ่าบาท ขอทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปีพะย่ะค่ะ” เสียงของอัครมหาเสนาบดีเกาเจียฉี่และเหล่าขุนนางทั้งหลายดังขึ้นพร้อมกัน หวังซานเย่ประสานมือน้อมคำนับพี่ชายต่างมารดาอย่างไม่เต็มใจสักเท่าใดนัก ก่อนจะนั่งลงอย่างเสียมารยาท ทว่าหวังลู่ฮ่องเต้ก็ไม่อยากเอาเรื่องน้องชายผู้นี้ให้มากความ

หวังลู่ฮ่องเต้แย้มยิ้ม ขณะเดียวกันสายพระเนตรก็หันมามองน้องชายต่างมารดาแฝงความเย้ยหยันอยู่ในที “เชิญพวกท่านตามสบายเถิด”

เหล่าเสนาบดีทุกคนต่างยืนนิ่งอย่างสงบเสงี่ยม ส่วนเกาอี้เหรินนั้นยืนอยู่ข้างบิดาซึ่งเป็นอัครมหาเสนาบดีลำดับหน้าสุด

“ที่เรียกพวกท่านเข้าประชุมแต่เช้านี้มิใช่ราชกิจสำคัญอันใด แต่

วันนี้ข้าจะประกาศราชโองการที่สำคัญสองเรื่องให้พวกท่านทราบโดยถ้วนทั่วกัน” หวังลู่ฮ่องเต้ยกยิ้มพลางปรายสายพระเนตรมาที่หวังชินอ๋องเล็กน้อย

จากนั้นเฝิงกงกงจึงน้อมรับพระบัญชาคลี่ม้วนราชโองการฉบับแรกอ่าน “เนื่องด้วยชินอ๋องหวังซานเย่ มีความดีความชอบทำคุณูปการใหญ่หลวงต่อบ้านเมือง ปราบกบฏนำพาความสงบสุขมาสู่อาณาประชาราษฎร์ให้ร่มเย็น เรา...หวังลู่ฮ่องเต้ รัชศกเทียนหนี่ปีที่สอง ขอมอบรางวัลสำหรับความดีความชอบครั้งใหญ่หลวงนี้ให้กับหวังชินอ๋อง ด้วยการ...”

เฝิงกงกงหยุดอ่านครู่หนึ่งก่อนจะอ่านต่อว่า “ด้วยการมอบสมรสพระราชทานให้กับบุตรีอัครมหาเสนาบดีสกุลเฉิน...เฉินหว่านอิ๋ง...”

“อะไรนะ..!” เกาอี้เหรินนัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ สายตาหวานหันมามองหวังซานเย่ซึ่งกำลังตกใจไม่ต่างกัน แต่ว่าหวังซานเย่ยังคงเก็บอาการสงบนิ่งเอาไว้ เรื่องนี้จะต้องมีคำอธิบาย!

จากนั้นเฝิงกงกงจึงคลี่ม้วนพระราชโองการอีกฉบับหนึ่งขึ้นมาอ่าน “เนื่องด้วยคุณหนูรองสกุลเกา เกาอี้เหริน ผู้เป็นบุตรีอัครมหาเสนาบดีเกาเจียฉี่ซึ่งมีความดีความชอบต่อบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง อีกทั้งคุณหนูรองเกาอี้เหรินประพฤติตนตามหลักสามคุณธรรมสี่จรรยาเสมอมา ตัวเราจึงประกาศมอบตำแหน่งซูเฟย ให้เป็นพระชายาเอกขั้นที่สอง มีอำนาจรองจากเกากุ้ยเฟย จบราชโองการ”

ตอนนี้ดูเหมือนคนที่ตื่นตระหนกที่สุดคือเกาอี้เหริน สิ่งที่นางต้องการคือตำแหน่งพระชายาเอกเพียงหนึ่งเดียวแห่งจวนอ๋อง มิใช่ตำแหน่งซูเฟยในวังหลวงเช่นนี้ นางได้แต่ยืนค้างนิ่งอยู่เช่นนั้น กระทั่งเกาเจียฉี่ผู้เป็นบิดากระทุ้งแขนสะกิดนางให้เดินออกมาน้อมรับราชโองการ

เกาอี้เหรินตกอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้านหนึ่งคือราชโองการที่นางไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือบุรุษที่นางรักยิ่งกว่าสิ่งใด นางมีความตั้งใจเพียงหนึ่งเดียวคืออภิเษกสมรสกับหวังซานเย่ กลายเป็นพระชายาเอกเพียงหนึ่งเดียวของชินอ๋อง แต่มาบัดนี้นางกลับถูกพรากสิ่งที่รักที่สุดไป สตรีอย่างเฉินหว่านอิ๋งกล้าดีอย่างไรมาแย่งสิ่งที่ควรเป็นของนาง!

“หากเจ้าไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อนก็น้อมรับราชโองการนี้เสีย!” เกาเจียฉี่กระซิบกับบุตรสาวคนเล็กที่ยืนนิ่งอย่างไม่สบอารมณ์ เกาอี้เหรินเดินมาหยุดเบื้องหน้าพระพักตร์ นางย่อกายลงน้อมรับพระราชโองการแต่งตั้งตนเองเป็นซูเฟยทั้งที่ไม่เต็มใจอย่างยิ่ง สายตาหวานมองชินอ๋องผู้เป็นที่รักยิ่งด้วยความเว้าวอน แต่กลับได้เพียงความเฉยชาจากเขากลับมา

“หม่อมฉัน เกาอี้เหริน...น้อมรับราชโองการเพคะ”

หวังซานเย่ได้แต่ฟังเท่านั้น ตอนนี้ในใจคิดหาคำตอบให้กับสิ่งที่ตนเองได้รับ ‘บุตรีเจ้ากรมพระคลัง เฉินหว่านอิ๋ง’ นางเป็นใครกันถึงกล้ามาอยู่ในแผนการที่เขาหมายจะทำลายสกุลเกาเพื่อแก้แค้นให้พระบิดาที่ถูกโค่นราชบัลลังก์!

หวังลู่ยิ้มอย่างพึงใจ เขาหันมามองหวังซานเย่เล็กน้อยแล้วกล่าว “ชินอ๋องเล่า ไม่เห็นด้วยหรือ...นี่เป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะเชียวนะ บุตรีคนรองของเจ้ากรมพระคลังงดงามสมค่ำร่ำลือ อีกทั้งกิริยาวาจานั้นอ่อนหวานสุภาพยิ่ง ตรงกับชายาในอุดมคติของเจ้ามิใช่รึ?”

เกาอี้เหรินจำต้องกลืนน้ำลายกล้ำกลืนฝืนทนกับราชโองการนี้ นางหันมามองหวังซานเย่ ด้วยหัวใจที่คาดหวังว่าเขาจะต่อสู้เพื่อนาง

ในที่สุดชินอ๋องหวังซานเย่ก็กล่าวขึ้นมาว่า

“กระหม่อม...น้อมรับราชโองการพะย่ะค่ะ”

แล้วเขาจะทำให้บุตรีเจ้ากรมพระคลังอย่างเฉินหว่านอิ๋งรู้ว่า การเป็นพระชายาชินอ๋องนางจะต้องตกนรกขุมใด!

ในเมื่อเจ้ากรมพระคลังและหวังลู่ใช้นางขัดขวางการแต่งงานของเขากับเกาอี้เหริน เขาจะทำให้เฉินหว่านอิ๋งต้องอยู่อย่างกล้ำกลืนฝืนทนในวังอ๋อง!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป